ยี่ห้อ STP ซึ่งในบรรดาแผ่น damp ก็เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด และหาซื้อได้ในเมืองไทย

ชนิดของ แผ่น Damp ในท้องตลาด
1. แผ่น Damp เพื่อลดการสั่นสะเทือน (Vibration)
เป็น แผ่น Damp ที่พบได้ตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมักทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าแผ่น Damp มีเพียงชนิดนี้ชนิดเดียว ซึ่งวัตุถประสงค์หลักของแผ่นประเภทนี้คือ ลดการสั่นสะเทือนของพื้นผิวซึ่งเป็นที่มาของการเกิดเสียงอย่างไรก็ตาม แผ่น Damp ประเภทนี้ก็มีหลายเกรดแตกต่างกันตามราคา (คุณสมบัติวัสดุที่ใช้และความหนาจะต่างกัน) ประเภทที่ถูกสุด จะเป็นเหมือนแผ่นกาว ยางสีดำ มักมีราคาเฉลี่ยประมาณ 500 บาทต่อแผ่น เช่นยี่ห้อ American Dynamic, DLS, Clear และอื่นๆ ระดับถัดมา จะเป็นแผ่น ที่ด้านหนึ่งเป็นยางสีดำ แต่อีกด้านเป็นอลูมิเนียม ประเภทนี้ราคาจะสูงขึ้นแต่ประสิทธิภาพก็เพิ่มขึ้นตามราคา เช่น Prism, STP silver ระดับสูงสุด จะเป็นแผ่น ที่ด้านหนึ่งเป็นยางสีดำแต่หนากว่าประเภทที่แล้ว อีกด้านเป็นอลูมิเนียมเช่นกัน ราคาจะสูงสุดแต่ประสิทธิภาพก็สูงสุดเช่นกัน ได้แก่ STP Gold
2. แผ่น Damp เพื่อซับเสียง (Sound )
เป็น แผ่น Damp ที่มีราคาสูงกว่าชนิดแรก ลักษณะคล้ายฟองน้ำเนื้อแน่น โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดเสียงที่เกิดจากการขับขี่เป็นหลัก เช่นเสียงจากพื้นรถ ซึ่งมักจะมีระดับความถี่ที่ประมาณ 60 Hz โดยแผ่น Damp ประเภทนี้มักใช้ควบคู่กับแผ่น Damp ประเภทแรกโดยติด ทับลงไปเป็นแบบ 2 ชั้น ตัวอย่างของ แผ่น Damp ประเภทนี้ได้แก่ STP Bomb
3. แผ่น Damp เพื่อลดการเสียดสีระหว่างผิววัตถุ
เป็นแผ่น Damp ที่มักใช้กับแผงประตูเป็นหลัก เพื่อลดเสียงที่เกิดจากการเสียดสีระหว่าง แผงประตูรถที่เป็นพลาสติกกับประตูรถที่เป็นเหล็ก และจะใช้ ควบคู่กับแผ่น Damp ประเภทแรกโดยติด ทับลงไปเป็นแบบ 2 ชั้นคล้ายแผ่น Damp ประเภทที่สอง ตัวอย่างของ แผ่น Damp ประเภทนี้ได้แก่ STP Bitoplast

ข้อดีและข้อเสียของการ Damp
ข้อดี ช่วยหยุดการกระพือของตัวถัง ของรถที่คุณรักเพื่อความสุนทรีย์ ในการฟังเพลงภายในรถครับ และลดปริมาณเสียงที่เข้ามาในรถ ทั้งเสียงพื้นถนน เสียงบีบแตร (เงียบขึ้นไม่ต่ำกว่า 60-70%)
ข้อเสีย รถจะหนักขึ้น การกินน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่โดยส่วนตัว ผมว่าคุ้มค่าครับ

สุดท้าย ถ้าจะ Damp แนะนำว่าให้เลือกแบรนที่เป็นที่ยอมรับระดับโลกที่ใช้ในงานแข่งขั้นเครื่องเสียง เนื่องจากมีผลเทส การลดระดับเสียงชัดเจน จาก LAb ที่ได้รับการยอมรับครับ จะเสียเงินทั้งที ต้องคุ้มค่าครับ

การแดมป์อย่างถูกวิธีก็เหมือนเราสร้างห้องฟังเพลงดีๆ